บัวลอย


ความเป็นมา


1. มะพร้าวเยอะ

2. มันเทศปลูกเอง

 

วัตถุดิบ


1. แป้งข้าวเหนียว

2. แป้งข้าวจ้าว

3. แป้งมัน

4. กะทิ

5. มะพร้าวอ่อน

6. เกลือป่น

7. มันเทศ

8. เผือก

9. งาขาว 

10. งาดำ 

11. น้ำตาลทราย

12. น้ำตาลปิ๊บ

13. น้ำเปล่า

14. ใบเตย

 

วิธีทำ


1. นำมันเทศมาขยำใส่แป้งข้าวเหนียวและใส่แป้งมันขยำให้เข้ากันผสมน้ำตาลปี๊บน้ำตาลทรายหยดน้ำใส่เรื่อยๆขยำให้เข้ากันจนแป้งเหนียวได้ที่จากนั้นนำมาปั้น 

2. ปั้นลูกพอประมาณใส่ในถาดแป้งมันเพื่อไม่ให้ติดกัน

3. จากนั้นต้มลูกบัวลอยในน้ำเดือดเมื่อสุกแล้วลูกบัวลอยจะลอยขึ้นให้ตักออกไปแช่ในน้ำเย็นเพื่อให้บัวลอยนุ่ม

4. นำกะทิมาผสมน้ำเปล่าใส่แป้ง ข้าวจ้าว น้ำตาล เกลือ คนเบาๆให้เข้ากันเพื่อไม่ให้เกิดฟองใส่ใบเตยคันให้ละลายใช้ไฟปานกลางพอให้สุกหอมยกลง

5. ตักกะทิใส่บัวลอยที่สุกแล้วพร้อมรับประทาน

 


ข้อมูลอื่นๆ


เทคนิค/จุดเด่นของอาหารด้านรสชาด หรือการจัดแต่ง

-

หน่วยงานทางอำเภออุทัยสวรรค์ จัดอบรมเมนูบัวลอย

ทำได้ 1 ปี

 

คุณค่าและประโยชน์


1. หัวมันเทศเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตชั้นดีที่ให้พลังงานโดยไม่ก่อพิษต่อร่างกายแบบอาหารที่แปรรูปจากแป้งและน้ำตาลแบบอื่น ๆ จึงสามารถนำมาใช้รับประทานแทนข้าวได้ โดยคุณค่าทางโภชนาการของหัวมันเทศต่อ 100 กรัม ประกอบไปด้วย พลังงาน 100 แคลอรี, แป้ง 25 กรัม, โปรตีน 1.7 กรัม, ไขมัน 0.3 กรัม, น้ำ 70 กรัม, เถ้า 1 กรัม, แคโรทีน (เฉพาะในเนื้อหัวสีเหลือง) 2,000-5,000 หน่วย, วิตามินบี 1 0.1 มิลลิกรัม, วิตามินบี 2 0.05 มิลลิกรัม, วิตามินบี 3 0.7 มิลลิกรัม, วิตามินซี 25 มิลลิกรัม เป็นต้น

2. เผือกมีธาตุเหล็กและฟลูออไรด์สูง จึงช่วยในการเสริมสร้างกระดูกแข็งแรงและป้องกันฟันผุ นอกจากนี้ เผือกยังเป็นอาหารที่ช่วยบำรุงลำไส้แก้อาการท้องเสีย อีกทั้งยังช่วยบำรุงร่างกายในเรื่องของการย่อยอาหาร ป้องกันโรคหัวใจ ลดความดันโลหิต ลดน้ำตาลในเลือดและความเสี่ยงของการเป็นเบาหวาน บำรุงสายตา ที่สำคัญยังเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายและบำรุงระบบประสาทอีกด้วย



ร้านอาหาร


แผนที่ร้านอาหาร


»

Scroll to Top